หลักการซื้อขาย Forex
เบื้องต้น
เริ่มแรกเลยให้ท่านเลือกสกุลเงินที่ต้องการเทรด
และทำการวิเคราะห์ว่าราคาในอนาคตจะเป็นอย่างไร
- ถ้าท่านคิดว่าราคาในอนาคตจะมากกว่าราคาปัจจุบัน ให้ท่านทำการซื้อ (buy)
- ถ้าท่านคิดว่าราคาในอนาคตจะน้อยกว่าราคาปัจจุบัน ให้ท่านทำการขาย (sell)
Pip
หน่วยของราคาในสกุลเงินต่างๆเราจะเรียกว่า
Pip ซึ่ง Pip คือจำนวนจุดที่น้อยที่สุดของคู่เงินนั้นๆ
- ตัวอย่าง ราคาของคู่ EUR/USD มีทศนิยม 4 จุด เช่น 1.1162 เพราะฉะนั้น 1 pip ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.0001 ถ้าราคาวิ่งจาก 1.1162 ไป 1.1172 หมายความว่าราคามีการวิ่งไป 10 pip
- ตัวอย่าง ราคาของคู่ GBP/USD มีทศนิยม 4 จุด เช่น 1.5727 เพราะฉะนั้น 1 pip ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.0001 ถ้าราคาวิ่งจาก 1.5727 ไป 1.5737 หมายความว่าราคามีการวิ่งไป 10 pip
ราคา
Bid & Ask
ในการเทรด
Forex แต่ละสกุลเงินจะมีราคาแสดงอยู่ 2 ราคาด้วยกัน คือราคา Bid และ ราคา Ask เราสามารถดูราคานี้ได้ในโปรแกรมเทรด cTrader ดังรูป
- เวลาเราทำการเปิดออเดอร์ซื้อ (buy) เราจะได้ที่ราคา Ask ส่วนเวลาปิดออเดอร์จะได้ที่ราคา Bid
- เวลาเราทำการเปิดออเดอร์ขาย (sell) เราจะได้ที่ราคา Bid ส่วนเวลาปิดออเดอร์จะได้ที่ราคา Bid
สามารถดูค่า Bid และ Ask จากบนกราฟได้
Spread
Spread คือผลต่างของราคา Bid และ ราคา Ask
- จากรูป ราคา Bid ของ EUR/USDเป็น 1.1162 ราคา Ask เป็น 1.1174 ดังนั้น Spread เท่ากับผลต่างของ 2 ค่านี้คือ 0.0012 หรือ 12 pip
- ซึ่ง Spread ก็เปรียบเสมือนกับค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ที่คิดกับเรานั่นเอง ยิ่งน้อยยิ่งดี
Lot
ขนาดของสัญญาที่เราทำการซื้อขายกันนั้นเรียกว่า
lot ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเทรดที่ lot
เท่าไหร่ในช่อง Quantity ของโปรแกรม cTrader
ดังรูป
โดยถ้าเราใส่จำนวน
Lot มาก เวลาราคามีการขึ้นหรือลง
เราก็จะได้กำไรหรือขาดทุนเพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน
Margin
Margin
เปรียบเสมือนกับค่ามัดจำที่เราต้องใช้ในการเปิดออเดอร์แต่ละครั้ง
และก็จะเพิ่มกลับเข้าไปในบัญชีเหมือนเดิมเมื่อทำการปิดออเดอร์ ยิ่งใส่จำนวน lot
ในการเปิดออเดอร์มากเท่าไหร่ จำนวน Margin ที่ใช้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
แล้ว
Margin มีความสำคัญอย่างไร?
ถ้าท่านไม่คอยดูค่า Margin ให้ดี
ออเดอร์ของท่านอาจจะถูกปิดอัตโนมัติได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อท่านมีการเปิดออเดอร์ ในโปรแกรม MT4 จะมีค่าแสดงให้ท่านดูดังนี้
- Balance แสดงยอดเงินที่ยังไม่รวมกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ที่กำลังเปิดอยู่
- Equity แสดงยอดเงินที่รวมกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ที่กำลังเปิดอยู่
- Margin แสดงจำนวน Margin ทั้งหมดที่ใช้ไปในการเปิดออเดอร์
- Free Margin มีค่าเท่ากับ Equity - Margin
- Margin Level มีค่าเท่ากับ Equity / Margin * 100
ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีเงื่อนไขไว้อยู่ว่า ถ้า Margin Level เหลือน้อยกว่าค่าใดออเดอร์จะถูกปิดอัตโนมัติ
ค่านี้เรียกว่า Stop Out Level นั่นหมายความว่าออเดอร์จะมีโอกาสถูกปิดอัตโนมัติเมื่อ
- ท่านเปิดออเดอร์โดยใส่ lot มากเกินไป ทำให้ Margin Level เหลือน้อย (จากสูตร Margin Level = Equity / Margin * 100)ยิ่ง Margin มาก Margin Level ยิ่งน้อย
- ท่านขาดทุนมากเกินไปทำให้ Equity เหลือน้อย (ยิ่ง Equity น้อย Margin level ยิ่งน้อย)
Leverage
ความหมายง่ายๆของ
เลเวอเรจ (Leverage)
คือ
จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ได้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อทำการเปิดออเดอร์เทรด
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณซื้อ 100 หุ้นในตลาดหุ้นโดยที่ราคาหุ้นละ 10 $ ต่อหุ้น คุณต้องใช้เงิน $1000 เพื่อเปิดการเทรด
บางโบรกเกอร์ให้คุณยืมเงินเพื่อเทรดสูงถึง 50-80% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด
แทนที่คุณจะใช้เงิน $1000 แต่คุณกลับใช้แค่ $500 เท่านั้น เพื่อทำการเทรด
สิ่งนี้แหละที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถซื้อหุ้นได้มาก โดยใช้เงินเท่าเดิม
อย่างไรก็ตามทางโบรกเกอร์ก็จะชาร์จกำไรจากการยืมของคุณ หลักการนี้ก็นำมาใช้กับตลาดForex
แต่โบรกเกอร์Forexให้คุณยืมถึง
99% ของทั้งหมดเพื่อให้คุณเปิดการเทรดและคุณก็ใช้มันเพียงแค่ 1% เท่านั้น
ถ้าคุณต้องการเทรด $1000 คุณใช้มันเพียงแค่ $10 นี่คือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและตลาดForex
และตลาดForex ไม่ชาร์จกำไรจากการยืมของคุณด้วย
หลายๆคนอาจจะงง
เรามาดูกันครับ ว่า Leverage ที่โบรกเกอร์Forexได้กำหนดไว้มีเท่าไรบ้าง
โดยส่วนมากโบรกเกอร์จะกำหนด Leverage ตั้งแต่
Leverage
1:1
1:2
1:10
1:100
1:200
1:400
1:500
1:1000 เฉพาะบางโบรกเกอร์ เท่านั้น และโบรกเกอร์ Secret2Rich
ของเราจะให้ Leverage อยู่ที่ 1:200
ตัวอย่างการเทรดที่ Leverage 1:100
สมมติว่าต้องการซื้อ EUR ที่ 100
units จะใช้เงิน 1 units เท่านั้นเพื่อซื้อ EUR
100 units ถ้าซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.2750 เมื่อราคาขึ้นไปถึง 1.2800
ผลต่างของราคาเท่ากับ 50 pips เมื่อพอใจแล้ว ก็ทำการขาย ได้กำไร 50 pips
ตัวอย่างการคำนวณ จากหัวข้อ เรื่อง Pips และ Lot
(pip value / ราคาที่คุณปิด )
คูณด้วย Unit ที่คุณทำการ Buy Sell
=(0.001/1.2800)*100=$0.39
หรืออาจจะคิดแบบนี้ สมมติว่า ต้องการซื้อ EUR ที่อัตราแลกเปลี่ยน
ณ ปัจจุบัน EUR/USD =1.2750 เป็นจำนวน $100 เราจึงใช้เงิน
$1 จากบัญชีเป็น Leverage 1:100
ดังนั้นต้องยืมโบรกเกอร์อีก $99 เมื่อซื้อแล้ว จะได้ EUR มา
78.43 Euro และเมื่อราคาขึ้นไป 1.2800 ได้กำไร 50
pips ตัดสินใจขายยูโร ที่ซื้อมา จะได้ 78.43*1.2800=$100.39 นี่คือกำไร
$100.39 แต่ได้ยืมโบรกเกอร์มา
99 $ ทางโบรกเกอร์จะหักเงินอัตโนมัติ แล้วที่เหลือก็คือ $1.39 สรุปคือ ถ้าได้กำไรมา $0.39 จากการเทรดเงิน $1 เมื่อราคาเคลื่อนที่ 50 pips
แต่ปัจจุบันนี้ ทางโบรกเกอร์กำหนดให้เราแล้ว ว่า ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป
1 pip ถ้าเราซื้อ $1 เราจะได้ $0.01 ดังนั้นจากตัวอย่างข้างบน ได้มา 50
pips จะได้เงิน $0.50
Use
Margin คือ จำนวนเงินที่เราใช้เทรดในแต่ละครั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage
และ Use Margin
ประเภทของบัญชีในการเทรด Forex จะมีอยู่หลายประเภท
แต่ที่หลักๆ ที่ใช้กันคือมีสามประเภทคือ
1.Standard
Account
2.Mini
Account
3.Micro
Account
เทียบความสัมพันธ์ระหว่าง Lot , Leverage และ Use
Margin ของ บัญชี Standard นะครับ
Leverage
|
ความต้องการเทรด
|
Use Margin
|
1:100
|
1 lot(100,000$)
|
1000$
|
1:200
|
1 lot(100,000$)
|
500$
|
1:400
|
1 lot(100,000$)
|
250$
|
การเทรด 1 Lot คือ การใช้ Use
Margin $1000 เพื่อที่จะเทรด Forex โดยใช้ Leverage
1:100 หมายความว่า
คุณต้องมีเงินในบัญชีเทรด Forex มากกว่า $1000 คุณจึงจะเทรดที่ 1 Lot ได้
และการเปลี่ยนแปลงต่อจุด ถ้าราคาเคลื่อนที่ไป 1 pips จะเท่ากับ
$10 เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมีเงินแค่ $1000
แล้วคุณปล่อยให้ลบ 100 pips บัญชีของคุณก็จะโดน Margin
Call ทันที ถ้าคุณไม่มี Margin โบรกเกอร์ก็จะตัดทันที
Leverage
1:200 สิ่งที่แตกต่างของ Leverage 1:200 คือ
จำนวนเงินที่ใช้เทรด Use Margin จะน้อยกว่า 1:100 แต่
การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pip เท่ากับ $10 เหมือนกัน
ไม่ว่าคุณจะเล่นที่ Leverage เท่าไร การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 pips ก็ยังคงเท่าเดิม
Cr.
http://thaiforexschool.com/index.php?topic=10.0
Swap
Swap คือดอกเบี้ยที่เราจะได้หรือเสียไปเมื่อเราทำการเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ข้ามคืน
(ข้ามเวลาเที่ยงคืนบนกราฟ)
- ค่า Swap ของแต่ละสกุลเงินสามารถเข้าไปดูได้ที่ cTrader -> เลือกสกุลเงินที่ต้องการดู -> คลิกที่ icon information
- Swap long แสดงค่า Swap สำหรับออเดอร์ buy และ Swap short แสดงค่า Swap สำหรับออเดอร์ sell
- ค่า Swap เป็นบวกจะหมายความว่าเราจะได้กำไรเมื่อเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ข้ามคืน ถ้าค่า Swap เป็นลบจะหมายความว่าเราจะขาดทุนเมื่อเปิดออเดอร์ทิ้งไว้ข้ามคืน
- คืนวันเสาร์และอาทิตย์ไม่มีการคิดค่า Swap
- คืนวันพุธจะคิดค่า Swap เป็น 3 เท่าของค่า Swap ปกติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น